ผักออแกนิกกับผักไฮโดรโปนิกส์

ผักออแกนิกกับผักไฮโดรโปนิกส์ ในวิถีชีวิตยุคใหม่

ยุคสมัยในปัจจุบัน เราจะได้เห็นการใส่ใจในการบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องการ การดูแลร่างกายและสิ่งแวดล้อม ผักออแกนิกกับผักไฮโดรโปนิกส์ เริ่มเป็นที่นิยมในวงกว้าง เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้คนในวิถีชีวิตยุคใหม่ ในบทความนี้เราจึงจะพาคุณไปรู้จักกับผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกส์และแนะนำขั้นตอนในการเลือกซื้อและปลูกสวนเหล่านี้ด้วยตัวของคุณเอง  ผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกส์เป็นผักที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ทั้งสองประเภทมีความแตกต่างในด้านวิธีการปลูกและการบำรุงที่แตกต่างกัน ซึ่งส่งผลต่อคุณค่าทางอาหารและความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ผักไฮโดรโปนิกส์กับผักออร์แกนิกต่างกันอย่างไร มาศึกษาไปพร้อมกันในบทความนี้ได้เลย

ความหมายของผักออแกนิก

ผักออแกนิก คือ ผักที่ปลูกด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ ปราศจากการใช้สารเคมีทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช สารเร่งการเจริญเติบโต สารปรับปรุงดิน ฮอร์โมน และสารสังเคราะห์อื่นๆ แทนที่จะใช้สารเคมี เกษตรกรจะอาศัยการใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด น้ำหมักชีวภาพ และวิธีอื่นๆ ในการบำรุงดินและกำจัดศัตรูพืช ซึ่งในยุคที่เรามีความตั้งใจที่จะดูแลสุขภาพและลดการใช้สารเคมีในอาหารของเรา ผักออแกนิกกลายเป็นตัวเลือกที่ดีเพื่อการบริโภคที่มีประโยชน์ การบริโภคผักออแกนิกมีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ เนื่องจากไม่มีสารเคมีที่อาจตกค้างในผัก นอกจากนี้ยังมีสารอาหารที่สูงมาก เช่นวิตามิน และเส้นใยอาหารที่ช่วยให้กระเพาะอาหารทำงานดีขึ้น การบริโภคผักออแกนิกยังเชื่อกันว่าช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลายชนิด

ความหมายของผักไฮโดรโปนิกส์

ผักไฮโดรโปนิกส์ คือ ผักที่ปลูกโดยไม่ใช้ดิน พืชจะได้รับสารอาหารจากน้ำที่ผสมด้วยสารละลายที่เป็นธาตุอาหาร สารละลายธาตุอาหารเหล่านี้มักทำขึ้นจากสารเคมี ซึ่งผ่านการสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ สารเคมีเหล่านี้จะช่วยให้ผักเจริญเติบโตได้เร็วขึ้นและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง ผักไฮโดรโปนิกส์มีอะไรบ้าง เรามาทำความรูจักกันเลย

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ มีระบบต่างๆ มากมาย ที่นิยมปลูกกันในประเทศไทย ได้แก่

  • ระบบ NFT (Nutrient Film Technique) เป็นระบบที่ปลูกพืชโดยให้รากสัมผัสกับสารอาหาร โดยสารอาหารดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ หนา 1-3 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับรากพืชโดยตรง และจะมีการไหลหมุนเวียนกลับมาใช้อีกครั้ง
  • ระบบ DFT (Deep Flow Technique) เป็นระบบที่ปลูกพืชโดยให้รากพืชแช่อยู่ในสารละลายธาตุอาหาร สารละลายธาตุอาหารจะถูกเติมลงในรางปลูกในปริมาณที่เพียงพอ และจะถูกระบายออกเป็นประจำ เพื่อให้พืชได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ
  • ระบบ DRFT (Dynamic Root Floating Technique) เป็นระบบที่ปลูกพืชโดยให้รากพืชลอยอยู่ในสารละลายธาตุอาหาร สารละลายธาตุอาหารจะถูกเติมลงในรางปลูกในปริมาณที่เพียงพอ และจะถูกปั๊มให้ไหลเวียนผ่านรากพืชตลอดเวล

ขั้นตอนการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์

ขั้นตอนการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ 

  • เลือกพืชที่จะปลูก: ไฮโดรโปนิกส์ปลูกอะไรได้บ้าง มา ริ่มต้นปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ด้วยการเลือกพืชที่ต้องการปลูก เช่น ผักสวนครัวต่าง ๆ เช่น ผักกาดหอม ผักชี หรือ ผักบุ้งจีน เป็นต้น
  • เตรียมระบบไฮโดรโปนิกส์: จัดเตรียมระบบที่ใช้ในการปลูก เช่น ระบบกระถางน้ำหรือระบบน้ำหยด เพื่อให้พืชได้รับน้ำและสารอาหารตามที่จำเป็น
  • ดูแลรักษา: ตรวจสอบระดับน้ำและสารอาหารในระบบเพื่อให้พืชเจริญเติบโตอย่างสม่ำเสมอ อย่าลืมกำจัดวัชพืชและศัตรูพืชที่อาจเข้ามาทำลาย
  • เก็บเกี่ยวผลผลิต: เมื่อพืชเติบโตและให้ผลผลิตสามารถเก็บเกี่ยวได้ แนะนำให้เก็บเกี่ยวเมื่อพืชยังอยู่ในสภาพสดชื่นเพื่อความอร่อยและคุณค่าทางอาหารที่สูง

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มีข้อดีหลายประการ

  • ประหยัดพื้นที่ สามารถปลูกผักได้ในพื้นที่จำกัด เช่น ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ท่อ pvc หรือปลูก ผักไฮโดรโปนิกส์ แนวตั้ง
  • ควบคุมสภาพแวดล้อมได้อย่างแม่นยำ สามารถควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และปริมาณแสงให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชได้
  • ผลผลิตสูง สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เร็วกว่าการปลูกแบบดั้งเดิม
  • ปลอดศัตรูพืชและโรค สามารถลดการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและโรคได้

การปลูกผัก ไฮโดรโปนิกส์ ข้อเสีย บางประการเช่นกัน

  • ต้นทุนสูง ต้องใช้ อุปกรณ์การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ และสารละลายธาตุอาหารที่มีราคาแพง
  • ต้องใช้ความรู้และทักษะในการปลูก การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ต้องใช้ความรู้และทักษะในการดูแลรักษาระบบและควบคุมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม
ผักออแกนิกกับผักไฮโดรโปนิกส์

ความแตกต่างด้านคุณค่าทางอาหาร

การศึกษาพบว่า ผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกส์ต่างก็มีความแตกต่างด้านคุณค่าทางอาหาร โดยผักออแกนิกมีวิตามินซี วิตามินอี และโพแทสเซียมมากกว่าผักไฮโดรโปนิกส์ นอกจากนี้ ผักออแกนิกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่า ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระเป็นสารที่ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลาย

สาเหตุที่ผักออแกนิกมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าผักไฮโดรโปนิกส์นั้น เนื่องมาจากผักออแกนิกได้รับสารอาหารจากดินธรรมชาติ ซึ่งดินธรรมชาติมีจุลินทรีย์และสารอาหารต่างๆ ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชอย่างครบถ้วน นอกจากนี้ ผักออแกนิกยังได้รับแสงแดดธรรมชาติอย่างเต็มที่ ซึ่งแสงแดดธรรมชาติจะช่วยกระตุ้นให้พืชสังเคราะห์แสงและสร้างสารอาหารได้มากขึ้น

ในทางกลับกัน ผักไฮโดรโปนิกส์ได้รับสารอาหารจากสารละลายธาตุอาหาร ซึ่งสารละลายธาตุอาหารเหล่านี้มักทำขึ้นจากสารเคมี ซึ่งผ่านการสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ สารเคมีเหล่านี้อาจส่งผลต่อปริมาณสารอาหารในผักไฮโดรโปนิกส์ได้ นอกจากนี้ ผักไฮโดรโปนิกส์อาจไม่ได้รับแสงแดดธรรมชาติอย่างเต็มที่ เนื่องจากต้องปลูกในพื้นที่ที่มีการควบคุมสภาพแวดล้อมอย่างเข้มงวด อย่างไรก็ตาม การศึกษาบางชิ้นพบว่า ผักไฮโดรโปนิกที่มีการควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด อาจมีปริมาณสารอาหารใกล้เคียงกับผักออแกนิก

ความแตกต่างด้านความปลอดภัย

ผักไฮโดรโปนิกส์อาจมีสารเคมีตกค้างจากสารละลายธาตุอาหารที่ใช้ปลูกได้ เนื่องจากสารละลายธาตุอาหารเหล่านี้มักทำขึ้นจากสารเคมี ซึ่งผ่านการสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตผักไฮโดรโปนิกส์มักควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานความปลอดภัย

ผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกต่างก็มีความแตกต่างด้านความปลอดภัยต่อผู้บริโภค ดังนี้

  • ผักออแกนิกปลูกด้วยกระบวนการทางธรรมชาติ ปราศจากการใช้สารเคมีทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลง ยาปราบวัชพืช สารเร่งการเจริญเติบโต สารปรับปรุงดิน ฮอร์โมน และสารสังเคราะห์อื่นๆ แทนที่จะใช้สารเคมี เกษตรกรจะอาศัยการใส่ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก ปุ๋ยพืชสด น้ำหมักชีวภาพ และวิธีอื่นๆ ในการบำรุงดินและกำจัดศัตรูพืช เนื่องจากผักออแกนิกปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี จึงมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารเคมีจากสิ่งแวดล้อมน้อย อย่างไรก็ตาม ผักออแกนิกอาจปนเปื้อนด้วยสารพิษจากแหล่งอื่นๆ เช่น สารพิษจากอากาศ สารพิษจากน้ำ และสารพิษจากดิน
  • ผักไฮโดรโปนิกส์ปลูกโดยไม่ใช้ดิน พืชจะได้รับสารอาหารจากน้ำที่ผสมด้วยสารละลายธาตุอาหาร สารละลายธาตุอาหารเหล่านี้มักทำขึ้นจากสารเคมี ซึ่งผ่านการสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ สารเคมีเหล่านี้จะควบคุมให้พืชได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตอย่างเพียงพอ ผักไฮโดรโปนิกส์อาจปนเปื้อนด้วยสารเคมีตกค้างจากสารละลายธาตุอาหารที่ใช้ปลูกได้ เนื่องจากสารละลายธาตุอาหารเหล่านี้มักทำขึ้นจากสารเคมี ซึ่งผ่านการสังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตผักไฮโดรโปนิกส์มักควบคุมการผลิตอย่างเข้มงวด เพื่อไม่ให้มีสารเคมีตกค้างเกินมาตรฐานความปลอดภัย

สรุป ผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกส์ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ผักออแกนิกมีคุณค่าทางอาหารมากกว่าผักไฮโดรโปนิกส์ แต่อาจหาซื้อได้ยากและมีราคาแพงกว่าผักไฮโดรโปนิกส์ ซึ่งอาจไม่เหมาะกับผู้บริโภคที่มีงบประมาณจำกัด ผักไฮโดรโปนิกส์อาจหาซื้อได้ง่ายและราคาไม่แพง แต่อาจมีสารเคมีตกค้างได้ดังนั้น ผู้บริโภคควรเลือกซื้อผักที่เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของตนเอง

FAQs

  • ผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกส์คืออะไร?

ผักออแกนิกคือผักที่ปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี และผักไฮโดรโปนิกส์คือผักที่ปลูกโดยใช้น้ำที่มีสารอาหารแทนการใช้ดิน


  • ผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกส์มีประโยชน์อย่างไร?

ผักออแกนิกมีประโยชน์ต่อสุขภาพเพราะไม่มีสารเคมีตกค้าง และผักไฮโดรโปนิกส์ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการปลูกผัก


  • การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มีขั้นตอนอย่างไร?

ขั้นตอนปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ประกอบด้วยการเลือกพืชที่จะปลูก การเตรียมระบบปลูก การดูแลรักษา และการเก็บเกี่ยวผลผลิต


  • ผักออแกนิกและผักไฮโดรโปนิกส์ความแตกต่างกันอย่างไร?

ผักออแกนิกปลูกโดยไม่ใช้สารเคมี ส่วนผักไฮโดรโปนิกส์ปลูกโดยใช้น้ำที่มีสารอาหารแทนการใช้ดิน


  • ผักไฮโดรโปนิกส์มีข้อดีอะไรบ้าง?

ผักไฮโดรโปนิกส์ช่วยให้ผักเจริญเติบโตได้เร็วขึ้นและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง

เครดิต : fleshvegetables.com